วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง มอบหมายให้ นายฐิศิรักน์ ห่อหุ้ม ปลัดหัวหน้า ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมด้วย น.ส.ธษพร สังข์อ้น นักวิชาการสถานีพัฒนาที่ดินยะลา นายประเสริฐ ดำเอียด นักวิชาการที่ดินอำเภอเบตง และตัวแทนจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส ร่วมกันไปตรวจพิสูจน์ที่ดินของผู้ที่มายื่นคำร้องขอรังวัดออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือออกโฉนดที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43

กรณีที่ตรวจสอบแล้วพบว่าที่ดินตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนฝั่งขวาของแม่น้ำปัตตานี จำนวน 2 ราย ซึ่งทางคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะได้รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาทำความเห็นเพื่อเสนอต่อ ผุ้ว่าราชการยะลาว่าสมควรออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือโฉนดที่ดินให้ได้หรือไม่ต่อไป

นายประเสริฐ ดำเอียด นักวิชาการที่ดินอำเภอเบตง กล่าวว่า ที่ดินที่จะออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ ที่ดินที่จะออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน คือ โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส. 3ก., น.ส. 3ข.)ได้ จะต้องเป็นที่ดินที่มีลักษณะตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) จะต้องเป็นที่ดินที่ผู้มีสิทธิในที่ดินได้ครอบครองและทำประโยชน์แล้ว ไม่เป็นที่ดินที่ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบที่ชายตลิ่ง ที่เลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ และไม่เป็นที่ดินซึ่งได้หวงห้ามไว้เพื่อประโยชน์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่า อันเป็นสาธารณสมบัติ ของแผ่นดินพุทธศักราช 2478 ไม่เป็นที่ดินที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติสงวนและพัฒนาที่ดินเพื่อจัดให้แก่ประชาชน ไม่เป็นที่ดินของรัฐที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติสงวนหรือหวงห้ามเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และไม่เป็นที่ดินที่คณะรัฐมนตรีสงวนไว้เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น

อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/24 ธ.ค.64/086-2896806