อังคาร. ธ.ค. 24th, 2024

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 64 นายทิวา รุ้งแก้ว ปราชญ์ชาวบ้านของ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้ไปพบปะกับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมซึ่งตนได้ไปมอบธารน้ำใจส่วนตัวที่วัดป่าพิมลมังคราราม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษได้พบปะพูดคุยกับปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่ง ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า ปีนี้น้ำท่วมไม่แรงเท่ากับปี 2556 ในปีนั้นน้ำแรงมากจะท่วมทั้งบ้านเรือนและไร่นา ถ้าหากรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจัดสรรน้ำได้ถูกต้อง น้ำในเขต อ.ปรางค์กู่ อ.ขุขันธ์ อ.ห้วยทับทัน อ.ไพรบึง อ.อุทุมพรพิสัยน้ำจะไม่ท่วม สาเหตุที่น้ำท่วมเนื่องจากว่าการจัดสรรน้ำการแบ่งปันน้ำลงไปไม่ทั่วถึง ปีนี้น้ำลงไปที่ห้วยคล้าไม่ได้เลยเพราะปีนี้ต้นน้ำห้วยคล้าที่มาจากทางด้านทิศตะวันตกของ อ.ขุขันธ์ ก็ไหลลงไปไม่ได้ น้ำก็เลยไหลออกไปท่วมทาง อ.ปรางค์กู่ น้ำที่มาทางทิศตะวันออกก็ไหลลงห้วยคล้าไม่ได้ น้ำก็ไหลไปท่วมทาง อ.ไพรบึง นั่นคือการจัดสรรน้ำไม่ถูกต้องของภาครัฐและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

นายทิวา รุ้งแก้ว ปราชญ์ชาวบ้านของ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า ส่วนน้ำท่วมปีนี้ก็อยากเรียนอย่างนี้ว่ารัฐบาลจะชดเชยให้ไร่ละ 1,300 บาท ซึ่งปราชญ์ของชาวบ้านท่านได้บอกว่า ปีนี้ได้ลงทุนทำนาไปไร่ละ 2,050 บาท แยกเป็นค่าไถกลบตอซังและไถหว่าน 500 บาท ไถปั่น 300 บาท ค่าหยอดข้าว 200 บาท ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว 250 บาท ค่าปุ๋ยกระสอบละ 300 บาท 2 กระสอบเป็นเงิน 600 บาท และยังมีค่าตัดหญ้าเพราะว่าปีนี้มันแล้ง หญ้ามันขึ้นท่วมข้าวต้องตัดหญ้าไร่ละ 200 บาท

สรุปแล้วปีนี้ลงทุนไปไร่ละ 2,050 บาทถ้ารัฐบาลชดเชยให้ 1300 บาทก็ไม่รู้ว่าจะไปอาศัยใคร ปกติแล้วรัฐบาลจะให้ประกันรายได้ไร่ละ 360 กิโลกรัมคิดกิโลกรัมละ 15 บาทก็จะได้เงิน 5,400 บาท ถ้ารัฐบาลจะช่วยเหลือชดเชยให้ไร่ละ 3,000 – 3,500 บาท ชาวนาจึงจะอยู่ได้ ตนขอฝากเสียงนี้ไปถึงรัฐบาลหรือตัวแทน ส.ส.ขอให้ไปช่วยพูดกับรัฐบาลให้ด้วย ในเรื่องน้ำท่วมที่เป็นความเดือดร้อนของชาวนา จ.ศรีสะเกษในปีนี้ ที่ท่วมนาอยู่ขณะนี้ไม่ใช่น้ำท่วมแต่เป็นน้ำตาของชาวนาที่ท่วมนาของตนเอง

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *