เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ 2 ชั้น จนท.ต้องระดมรถน้ำฉีดสกัดเพลิง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นเพลิงเผาบ้านวอดทั้งหลังเสียหายหลายแสนบาท

เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 1 พ.ย.64 ร.ต.อ.พิพัฒน์ แป้งหอม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งเหตุเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 116 หมู่ที่ 3 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงประสานรถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.เจดีย์หัก และเทศบาลใกล้เคียง และจนท.มูลนิธิราชานุสรณ์ ราชบุรี เข้าระงับเหตุ ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้จากชั้นล่างของตัวบ้านขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว ซึ่งภายในตัวบ้านเป็นไม้ทั้งหลัง จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จนท.ดับเพลิง พร้อมจนท.กู้ภัย จึงต้องเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิง โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า สินทรัพย์ภายในบ้านเสียหายทั้งหมด รวมทั้งรถจยย. จำนวน 7 คัน และรถยนต์เก๋ง 1 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน ที่เพื่อนบ้านได้นำมาฝากซ่อมไว้ รวมความเสียหายหลายแสนบาท

จากการสอบถามเพื่อนบ้านหลังเกิดเหตุทราบว่า ช่วงเวลา 15.30 น. ตนกำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน และได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นภายในห้องด้านหลังบ้านของบ้านเกิดเหตุ เมื่อออกมาดูกลับไม่พบอะไรผิดปกติ จนตนเดินเข้าไปภายในบ้าน ก็ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดอีกครั้ง ตนจึงออกมาดูให้แน่ใจ และพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในห้องด้านหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะเกิดเหตุตนพยายามเรียกคนภายในบ้านแต่กลับไม่มีเสียงคนตอบรับ จึงพยายามเอาน้ำฉีดเพื่อดับไฟ แต่ไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และลูกเขยของเจ้าของบ้านให้มาช่วยดับเพลิง

ขณะที่ นายพรรณการ เก้าวรากูร อายุ 27 ปี เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของ นายชาญ ทวีวงศ์ อายุ 62 ปี ส่วนตนนั้นเป็นลูกเขย ซึ่งช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน ส่วนตนออกไปทำงานที่ศูนย์ซ่อมรถแห่งหนึ่งในตัวเมืองราชบุรี จนช่วงเวลา 15.30 น. ตนได้รับแจ้งเหตุจากเพื่อนบ้านว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ตนจึงรีบกลับมาที่บ้าน แต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนทำอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งทำให้ทรัพย์สินของคนภายในครอบครัวทั้งหมด ถูกเพลิงไหม้ไม่เหลืออะไรเลย

เบื้องต้นจนท.ตำรวจ ยังไม่สรุปสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ต้องรอผลจากจนท.พิสูจน์หลักฐาน และผลการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงในครั้งนี้

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี