วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 12.30 น. นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 4 ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี อดีต สส.จ.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน ปัจจุบันสังกัดพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย น.ส.ชลธิชา นุ่มเจริญ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 4 ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ตัวแทนศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย เขต 6 อ.หนองแสง จ.อุดรธานี แจ้งต่อ ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ สินทะสิทธิ์ รอง สารวัตร สอบสวน สภ.หนองแสง ว่าเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน ว่าได้ลาออกจากสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และทำการยุบศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย เขต 6 โดยได้เดินทางไปยื่นไบลาออกที่สำนักงาน กกต.อุดรธานี แล้ว
นายเชิดชัย กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ได้เดินทางไปที่ กกต. เพื่อแจ้งต่อนายทะเบียนว่า ตนขอลาออกจากพรรคการเมืองที่ตนสังกัดอยู่ คือพรรคภูมิใจไทย เสร็จแล้วได้เดินทางมาที่ สภ.หนองแสง เพื่อลงบันทึกประจำวันว่าได้ลาออกจากพรรคนั้นแล้ว ส่วนสาเหตุที่ลาออกจากพรรคที่สังกัด เพราะว่าแนวคิดของตนกับพรรคไม่ตรงกัน มีหลายคนบอกว่าสาเหตุที่ตนลาออก เพราะตนไม่ถูกเลือกให้ลงสมัคร หรือพรรคเลือกคนอื่นมาลงสมัครแทนตน ซึ่งก็ไม่ได้น้อยใจ
นายเชิดชัย กล่าวต่อว่า คำพูดดังกล่าวไม่จริง เพราะว่ามีหลายพรรคมาทาบทามตนไปลงสมัคร แต่ตนก็ปฏิเสธ เพราะพรรคที่ตนจะไปสังกัดต้องมีอุดมการณ์ ต้องไม่เป็นพรรคการเมืองเชิงพานิชย์ ไม่เป็นพรรคการเมืองเชิงธุรกิจ ซึ่งศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย เขต 6 อ.หนองแสง มีสมาชิกพรรค 3 อำเภอ กุมภวาปี โนนสะอาด และหนองแสง มีสมาชิกพรรคจำนวนมาก แต่สมาชิกที่ทำหน้าที่เป็นโหวตเตอร์ต้องมีตามกฎหมายระบุไว้ ซึ่งมีจำนวน 178 คน
“ถึงแม้ว่าจะไม่ลงเลือกตั้งในครั้งนี้ ผมก็ไม่ได้ยุติทางการเมือง การเมืองยังอยู่ในหัวใจตลอดเวลา ต้องขับเคลื่อนทางการเมืองไป แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะทำอะไรต่อไป เพราะว่าพี่น้องประชาชนยังเดินทางมาหาตนตลอดเวลา”
น.ส.ชลธิชา นุ่มเจริญ อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ดูแลศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย เขต 6 มี อำเภอกุมภวาปี หนองแสง และโนนสะอาด ศูนย์ประสานงานพรรคอยู่ที่ บ้านเลขที่ 89 หมู่ 4 ต.นาดี อ.หนองแสง ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2563 เกือบ 4 ปี เมื่อ 3 วันก่อนมีผู้ประสานงานพรรคได้ติดต่อมาว่า ขอเชิญตัวแทนพรรคของ จ.อุดรธานี เข้าร่วมประชุมวันที่ 16 -17 กุมภาพันธ์ จึงได้เรียกประชุมสมาชิกและโหวตเตอร์มาหารือ ซึ่งสมาชิกว่าเดินต่อไปไม่ได้ จึงขอยุติบทบาทตรงนี้ เพราะอุดมการณ์ไปด้วยกันไม่ได้ เพราะแต่ละคนชอบการเมืองไม่เหมือนกัน และอยากได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบกว่านี้
