เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี พรรคเพื่อไทย โดยครอบครัวเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ “ อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น ” นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย, น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด, นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรค และแกนนำคนเสื้อแดง ส.ส.อุดรธานี และ ส.ส.จังหวัดใกล้เคียงร่วมปราศรัย โดยมีพี่น้องคนเสื้อแดงมาร่วมรับฟังการปราศรัยประมาณ 40,000 คน
จากนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ปราศรัยว่า มาจังหวัดอุดรธานีแล้วทำไมมาอีก ทำไมจะไม่มาก็อุดรธานีเคยเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง ตอนนั้นเกิดน้ำท่วมที่อุดรธานี คุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) เป็นนายกฯ ก็สั่งระเบิดถนนทำให้น้ำท่วมหมดไป และจ.อุดรธานีน้ำก็ไม่เคยท่วมอีกเลย การที่จะช่วยพี่น้องแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แต่เราถูกขัดขวางบ่อยครั้ง มาครั้งนี้เพื่อไทยขออาสา ขอให้เลือกเพื่อไทย และขออาสาแก้ไขปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง แม้จะใช้เงินเยอะแต่เราก็ต้องทำ แต่เพื่อไทยไม่กลัว เพราะเราหาเงินเป็น เราจะทำให้การเกษตรอยู่ดีกินดี ร่ำรวยกันหมด เราต้องคิดใหญ่ทำเป็น โดยเราจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาให้พี่น้องประชาชนแลกเปลี่ยนกับชาวต่างชาติ เราอยากให้เด็กมีอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กล่าวอีกว่า สำหรับค่าแรง 600 บาท เพื่อไทยทำได้จริงไม่ไกลเกินจริง เพราะเราเคยทำ 300 บาทรักษาทุกโรคมาแล้ว เมื่อช่วงเช้าไปรับฟังปัญหาชาวสวนยางมา เข้าใจปัญหามากๆ แต่ขอให้พี่น้องประชาชนอดทนรอวันที่เพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล นอกจากนี้คนไทยต้องปราศจากมะเร็ง เพราะเราจะมีการฉีดวัคซีนปากมดลูกฟรี และอยากให้กลับไปบอกคนที่ไม่ได้มาวันนี้ว่าเพื่อไทยมาแล้ว มาเพื่อบอกว่าเรามาสร้างความฝัน มาเพื่อสร้างความหวัง และต้องไม่ใช่แค่ความฝันแต่ต้องเป็นความจริง เอาลุงกลับไป เพื่อไทยมาแล้ว เอาลุงกลับไปเลี้ยงหลาน ส่วนลุงโทนี่ก็จะได้กลับมาเลี้ยงหลานบ้าง ขอให้ชาวอุดรเลือกพรรคเพื่อไทย เลือกทั้งคนและพรรคทั้ง 9 เขต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กล่าว
ทั้งนี้ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยเหลืออยู่ 7 คน ประกอบด้วย นายศราวุธ เพชรพนมพร , นายอนันต์ ศรีพันธุ์ , นายขจิต ชัยนิคม , นางอาภรณ์ สาราคำ , นางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ , นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม , นางเทียบจุฑา ขาวขำ ส่วน นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ได้ลาออกจาก สส.พรรคเพื่อไทย ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น
สนามเลือกตั้งอุดรธานี จาก 8 เขตเพิ่มเป็น 9 เขต พรรคเพื่อไทยได้เตรียมผู้สมัคร สส. ลงสู้ศึกครบทุกเขต โดยพื้นที่สนามเลือกตั้งอุดรธานีพรรคเพื่อไทยได้เตรียมความพร้อมเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.คนรุ่นใหม่ นายกรวีร์ สาราคำ สจ.เบิร์ด ลูกชายขวัญชัย ไพรพนา ลงแทน นางอาภรณ์ สาราคำ สส.เขต 4 อ.หนองหาน , นายวัชระพล ขาวขำ รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานีลูกชายนายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดร – นางเทียบจุฑา ขาวขำ สส.เขต อ.บ้านผือ ลงสมัครเขต 2 อำเภอเมืองอุดร
ส่วนเขต 7 กรณีนายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ลาออกจากพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคอื่น พรรคเพื่อไทยได้ส่ง ดร.ธีระชัย แสนแก้ว (อีโต้อีสาน) อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงและสหกรณ์ สมัยพรรคพลังประชาชน ลงสมัครแทนเขต อ.กุมภวาปี โนนสะอาด หนองแสง